Honda Accord 2022ฮอนด้า แอคคอร์ด เป็นอีกรุ่นหนึ่ง ที่อยู่ในใจคนไทยมาอย่างยาวนานเข้าสู่รุ่นที่ 10 หลังจากเปิดตัวมาได้ประมาณ 2 ปี ก็ถึงเวลาของการเปลี่ยนแปลงเพื่อตอบโจทย์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้น แต่นี่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ รูปลักษณ์ยังคงเหมือนเดิมทั้ง 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- 1.5 Turbo EL
- 2.0 e:HEV EL+
- 2.0 e:HEV TECH
ในบทความนี้ Autospinn ได้มีโอกาสสัมผัสและทดสอบ Honda Accord เจนเนอเรชั่นที่ 10 โดยทดสอบทั้งหมด 2 รุ่น คือ 1.5 Turbo EL (รุ่นเริ่มต้น) และ 2.0 e: HEV TECH (รุ่นท็อป) มาดูกันว่าแต่ละรุ่นมีอะไรใช้งานบ้าง ? .
ซื้อรถ Honda Accord มือสองกับ CARSOME รับประกันคุณภาพรถ ผ่านการตรวจสุขภาพ 175 รายการ พร้อมรับประกันนานถึง 2 ปีเต็ม ราคาคงที่ ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง หากคุณไม่พอใจกับการซื้อ คุณสามารถคืนสินค้าได้ภายใน 30 วัน honda accord 2022
Honda Accord 2022 รุ่นปรับปรุงใหม่
Honda Accord 2022 รุ่นปรับปรุงใหม่ Honda Accord 1.5 Turbo EL คือจุดเด่นของการออกแบบใหม่นี้ เนื่องจากได้เพิ่มออปชั่นมากมายเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า คุณสมบัติภายนอก ไฟตัดหมอกแบบ LED และท่อ 2 เส้นพร้อมผิวโครเมียม ตัวรถดูสวยงามและปราณีตยิ่งขึ้น ส่วนออปชั่นภายนอกอื่นๆ ยังคงใช้ของเดิม ได้แก่ ไฟหน้าแบบ Full LED พร้อมไฟวิ่งกลางวันแบบ LED, ไฟหน้าอัตโนมัติ, ไฟท้าย LED, เสาอากาศครีบฉลาม, ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ฮอนด้าแอคคอร์ด 2022
ดีไซน์ภายใน Honda Accord 2022
ภายในของ Honda Accord 1.5 Turbo EL ให้มาค่อนข้างครบ เช่น ที่ชาร์จไร้สาย, ที่ชาร์จไร้สาย, กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ . แอคคอร์ด 2022
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (ACC with LSF)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (RDM with LDW)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)
แต่ไม่มีระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเริ่มเคลื่อนตัว (LCDN) เหมือน Honda Civic รุ่นล่าสุด คงต้องรอประชุมกันอีกครั้งว่า “Small Changes” หรือไม่ ส่วนออปชั่นภายในอื่นๆ ยังคงเป็น ระบบบันทึกความจำภายในเช่นเดิม . เบาะคนขับเมมโมรี่ซีท แอร์ออโต้ ซ้ายขวา 2 โซน มาตรวัดระบบเบรคอัตโนมัติ พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID สี TFT ขนาด 7 นิ้ว honda accord ภายใน
ระบบความบันเทิง หน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง
เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Di VTEC TURBO สร้างกำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิด 243 นิวตันเมตร ด้วยการฉีดเชื้อเพลิงโดยตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ และเทอร์โบชาร์จเจอร์ ช่วยให้อากาศอัดเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT แบบแปรผันต่อเนื่องที่รองรับเชื้อเพลิง E85 Eco Sticker มีตัวเลขประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 16.4 กม.ต่อลิตร
ขับทดสอบ Honda Accord 1.5 Turbo EL
รถรุ่นนี้ยังคงใช้เครื่องยนต์เดิม แม้จะใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แถมยังพ่วงเทอร์โบอีกด้วย และแรงบิดก็มีให้ที่รอบต่ำอีกด้วย ดังนั้น มันจึงแรงพอที่จะทำให้รถ 1,464 กิโลกรัมพุ่งทะยานไปในทันที ถ้าใครสงสัยว่าวิ่งทางไกลได้ไหม? คุณสามารถขับขึ้นเนินหรือทางลาดชันได้หรือไม่? ที่นี้บอกเลยว่าไปกันสะดวกสุดๆ เป็นรถที่ค่อนข้างแรง ให้ความรู้สึกเหมือนคุณกำลังขับรถเทอร์โบโดยเฉพาะในสายการแข่งรถ หากใช้เพื่อเพิ่มความแข็งแรงถือว่าสะดวกมาก
ในเรื่องของการเก็บเสียง ถ้าเราใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. ถือว่าเป็นฉนวนกันเสียงที่ดี แต่ถ้าใช้ความเร็วสูงขึ้นจะเริ่มได้ยินเสียงลม ในเรื่องของช่วงล่างและการทรงตัวในความเร็วนั้นถือว่าเป็นรถที่ขับได้อย่างมั่นใจ ช่วงล่างเกือบแข็ง ให้ความรู้สึกสปอร์ต แต่ไฮไลท์ของการออกแบบใหม่นี้คือระบบ Honda SENSING ซึ่งเป็นหนึ่งใน 5 ระบบที่เป็นพระเอกของระบบความปลอดภัยนี้ มีการติดตั้งกล้องตรวจจับวัตถุไว้ที่กระจกหน้ารถ และด้านหน้าของรถติดตั้งเรดาร์สลับระยะของระบบต่างๆ ที่ผ่านการทดสอบแล้วว่าทำงานได้เสถียร โดยเฉพาะระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ทำงานจนกว่าจะหยุด ระบบรักษาเลน ซึ่งใช้งานง่าย จนถึงรถกึ่งอัตโนมัติคันนี้
Honda Accord 2.0 e:HEV TECH
เรามารวมตัวกันที่ HondaAccord 2.0 e: HEV Tech (รุ่นท็อป) ที่สำคัญคือเปลี่ยนชื่อรุ่นใหม่จาก Hybrid เป็น e: HEV ภายนอกแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นอกจากสัญลักษณ์ e:HEV แล้ว ยังใช้ไฟหน้า Full LED แบบเดิมพร้อมไฟวิ่งกลางวันแบบ LED ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟท้าย LED และสปอยเลอร์หลังให้อารมณ์สปอร์ต เสาอากาศแบบครีบฉลาม ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว และซันรูฟพร้อมระบบ One-Touch
ดีไซน์ภายใน Honda Accord 2.0 e:HEV Tech
ภายใน Honda Accord 2.0 e:HEV Tech ได้เพิ่มระบบฟอกอากาศ พลาสม่าคลัสเตอร์ และกระจกไฟฟ้าปรับขึ้น-ลงอัตโนมัติทั้ง 4 บาน นอกนั้นใช้ของเดิมหมดเลยเช่น
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวา
- ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD)
- มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว
- เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลัง 4 ทิศทาง
- ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่พร้อมเลื่อนอัตโนมัติเวลาขึ้น-ลงรถ (Memory Seat with Easy Entry/Exit)
- แท่นชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
- กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ
- ม่านบังแดดกระจกข้างด้านหลัง
- ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
- Honda CONNECT
- ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วแบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI
- Honda SENSING
HondaAccord 2.0 e: HEV ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว (มอเตอร์เจนเนอเรเตอร์) และ เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าทำหน้าที่เป็นล้อขับเคลื่อน (Motor Drive) พร้อมเกียร์อัตโนมัติ (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ให้กำลังสูงสุด 215 แรงม้า เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า แรงบิดสูงสุด 315 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมันแบบสติกเกอร์อีโค 24.4 กม./ลิตร
ขับทดสอบ Honda Accord 2.0 e:HEV TECH
จากการทดสอบ ผมใช้ความเร็วเฉลี่ย 120-140 กม./ชม. ขึ้นอยู่กับสภาพถนนและการจราจร เครื่องยนต์มีกำลังเพียงพอที่จะรองรับน้ำหนักรถ 1,568 กก. สำหรับการสตาร์ทโดยไม่ใช้คันเร่ง ในรุ่นนี้น้ำหนักรถจะมากกว่ารุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบอยู่ประมาณ 104 กิโลกรัม เพราะมีแบตเตอรี่ไฮบริด เข้าโค้งด้วยความเร็ว 120 กม./ชม. ทำได้อย่างมั่นใจ ในส่วนของการเก็บเสียงนั้น Accord Gen 10 ได้ฉีดโฟมเพื่อลดเสียง นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมเสียงรบกวนที่ลดเสียงรบกวนความถี่ต่ำในห้องโดยสาร แต่คุณยังคงได้ยินเสียงลมข้างนอกและเสียงเครื่องยนต์เมื่อเร่งความเร็ว ผิวถนนขรุขระมาก ฉันได้ยินเสียงยางครูดกับพื้นถนน
สรุปรีวิวโดยรวม
ครั้งนี้ดีไซน์ใหม่ Honda Accord 2022 ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับสมรรถนะของเครื่องยนต์ 1.5 Turbo EL ที่มีออปชันและระบบความปลอดภัยให้เลือกมากมาย ตั้งราคาสูงกว่ารุ่นเดิมเพียง 24,000 บาท ก็ถือว่าคุ้มค่ามาก อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์ไฮบริดมีตัวเลือกพิเศษให้เพียงไม่กี่รุ่น และเมื่อถูกถามว่าจะซื้อรุ่นไหนดีระหว่างเครื่องยนต์ 1.5 Turbo กับ 2.0 e: HEV (เครื่องยนต์ไฮบริด) ผมก็ตอบตกลง
ในรุ่นเทอร์โบ คุ้มเกินราคา และไม่ต้องกังวลกับระบบมอเตอร์ไฟฟ้า และถ้าคุณชอบความเย้ายวนของเครื่องยนต์เทอร์โบ หรือซื้อเพราะต้องการปรับแต่ง ผมว่ารุ่น 1.5 Turbo EL คือคำตอบของคุณอย่างแน่นอน
บทความแนะนำ