Honda City Hatchback

หัวข้อแนะนำ

Honda City Hatchback จุดประสงค์ในการใช้รถของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน บางคนซื้อไปจอดโชว์ บางคนซื้อไปขับช่วงวันหยุด ใช้ตัวไหนดี ไม่ต้องกังวลเรื่องราคาน้ำมัน? อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ใช้รถยนต์ทุกวันและเดินทางมักกล่าวว่าอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันต่อเดือนเกือบเท่ากับค่ารถใหม่

 

Honda City Hatchback e:HEV ขับยาว ๆ

Honda City Hatchback ด้วยวิวัฒนาการและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ส่งผลให้ บริษัทรถยนต์ต่าง ๆ ต่างพัฒนารถยนต์ตามความก้าวหน้า และประหยัดน้ำมันมากขึ้น รวมถึงค่ายรถยักษ์ใหญ่อย่าง Honda Honda City Hatch back e:HEV ซึ่งจุดเด่นของรถรุ่นนี้คือการใช้เครื่องยนต์ Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i MMD)
และอย่างที่ทราบกันดีว่าเครื่องยนต์ไฮบริด เป็นรถที่ประหยัด เนื่องจากเป็นการทำงานร่วมกันของเครื่องยนต์สันดาปภายในกับมอเตอร์ไฟฟ้า จึงสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน้อยกว่า แต่ใครจะเชื่อว่าการที่ผมได้ทดสอบ HondaCity Hatchback e: HEV RS ในครั้งนี้นั้น ประหยัดน้ำมันอย่างไม่น่าเชื่อ

สำหรับบทความนี้ Autospinn ได้มีโอกาสทดสอบ Honda City Hatch back e:HEV RS เป็นเวลาหลายวันในการทดสอบอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยและเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ต่างๆ

Honda City Hatch back e:HEV RS นี่คือรถยนต์ไฮบริดที่มีตัวถังแบบแฮทช์แบค โดยส่วนตัวแล้วฉันชอบตัวเลขดังกล่าวอยู่แล้ว เพราะใช้งานได้หลากหลาย เป็นการใช้งานแบบครอบจักรวาล นี่คือรุ่นท็อปที่มีระบบเสริมความปลอดภัย Honda SENSING และ RS

 

Honda City Hatch back e:HEV RS ดีไซน์ภายนอก

Honda City hatch back e: HEV RS ขนาดตัวถัง กว้าง 1748 มม. สูง 1488 มม. ยาว 4349 มม. อุปกรณ์ตกแต่งรอบคัน RS กระจังหน้าสีดำเงาพร้อมโลโก้ฮอนด้ากลางกระจังหน้าสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีของรถไฮบริด ไฟหน้าเป็นแบบ LED ครบชุด เปิดอัตโนมัติ มีระบบปรับไฟสูงต่ำ ดูกล้องที่ด้านบนของกระจกหน้ารถ กล้องนี้ออกแบบมาเพื่อถ่ายภาพวัตถุ ทำงานร่วมกับระบบความปลอดภัยส่วนใหญ่ในรถคันนี้ รวมถึงระบบความปลอดภัย Honda SENSING กระจกมองข้างสีดำเงาพับและปรับไฟฟ้า มีไฟเลี้ยวในตัว มีกล้องใต้กระจกมองข้างด้านซ้ายที่ทำงานร่วมกับระบบความปลอดภัย LaneWatch ของ Honda เมื่อเราเปิดไฟเลี้ยวซ้าย จะแสดงเป็นภาพที่กลางหน้าจอ ถือเป็นอีกหนึ่งระบบความปลอดภัยที่ช่วยลดจำนวนอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากจุดบอดขณะขับขี่ได้ และรุ่นนี้ จะมีเสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ และเชื่อว่าผู้ใช้รถหลายคนอาจลืมล็อครถหลังลงจากรถ ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกขโมย แต่คันนี้ หมดห่วงได้เลย เมื่อเราลงจากรถ ระบบจะล็อครถอัตโนมัติ ระบบนี้เรียกว่า “Walk Away Auto Lock” และเรายังสามารถสตาร์ทรถด้วยกุญแจรีโมทได้อีกด้วย ขั้นสูงสุดใช้งานได้จริง

 

Honda City Hatch back e:HEV RS ดีไซน์ภายใน

ห้องโดยสารกว้างขวางเป็นพิเศษด้วยเบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยแถบสีแดง โดดเด่นที่พวงมาลัยสปอร์ตหุ้มหนังแบบ 3 ก้านพร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชั่นด้านซ้ายเพื่อควบคุมหน้าจอเครื่องเล่นตรงกลาง ทางด้านขวาของปุ่มตั้งค่าความเร็วตัวแปร และระบบความปลอดภัยต่างๆ หน้าจอแดชบอร์ด TFT ขนาด 7 นิ้ว สำหรับดูพารามิเตอร์ต่างๆ ของรถ เครื่องเล่น Advanced Touch ขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Google Maps มีระบบสั่งการด้วยเสียงผ่านระบบสื่อสาร SIRI และ Honda Connect และเมื่อเลี้ยวซ้ายให้สัญญาณ ใช้งานอยู่หรือกดปุ่มที่ปลายคันบังคับด้านขวา กล้องใต้กระจกมองข้างด้านซ้ายจะทำงาน จอแสดงผลส่วนกลางของรถจะแสดงที่ด้านซ้ายของรถ ระบบนี้เรียกว่า Honda LaneWatch เป็นระบบความปลอดภัยที่ช่วยลดอุบัติเหตุในจุดบอด ซึ่งภาพในตอนกลางคืนจะมองเห็นได้ชัดเจนไม่แพ้กลางวันเลย เบาะผู้โดยสารตอนหลัง นั่งสบาย พื้นที่กว้างขวาง ช่องแอร์ด้านหลังและช่องจ่ายไฟ เบาะยังสามารถพับได้หลากหลาย รองรับการใช้งานทุกรูปแบบ เมื่อพับเบาะลง ความจุถึง 822 ลิตร – เช่นเดียวกับรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบ สำหรับแบตเตอรี่ไฮบริด ที่เก็บจะอยู่ในช่องเก็บยางอะไหล่ ขยายใต้เบาะหลังแต่ไม่เสียพื้นที่สำหรับผู้โดยสารหรือบรรทุกสัมภาระใดๆ

 

Honda City Hatch back e:HEV RS เครื่องยนต์

Honda City Hatch back e: HEV RS ขับเคลื่อนด้วยระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i MMD) ระบบไฮบริดเต็มรูปแบบเป็นเครื่องยนต์ Atkinson Cycle DOHC i VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 1.5 ลิตร 1.5 ลิตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวในเครื่องกำเนิดไฟฟ้าอื่น ๆ ขับเคลื่อนด้วยแรงบิดรวม 253 นิวตันเมตร ส่งกำลัง ผ่านระบบอัตโนมัติ เกียร์แปรผันแบบอิเล็กทรอนิกส์ E-CVT ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้สูงสุด 27 กม./ลิตร และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 86 กรัม/ลิตรต่อกิโลเมตร ในขณะที่รองรับเชื้อเพลิง E20

พูดง่ายๆก็คือใช้เครื่องยนต์เดียวกับที่อยู่ในตัวรถซีดาน เมื่อเปรียบเทียบการประหยัดเชื้อเพลิงของทั้งสองรุ่นแล้ว City e:HEV ซีดานมีการประหยัดเชื้อเพลิงที่ดีกว่าเล็กน้อย เนื่องจากความแตกต่างของแรงต้านอากาศและน้ำหนักรถ

 

ทดสอบการขับขี่ 

ระบบเตือนการชนพร้อมช่วยเบรก หากเราสนุก รถคันหน้าก็เบรกกระทันหัน หรือขับตามหลังรถคันหน้ามากเกินไปจอแสดงผลเรือนไมล์จะแสดงสัญลักษณ์และเสียงเตือน นอกจากนี้ ระบบจะเบรกอัตโนมัติหากมีระยะที่ไม่ปลอดภัย ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน : เมื่อเราตั้งความเร็วแล้ว เราสามารถยกเท้าออกจากคันเร่งได้เลย ถ้าเบรคหน้าเราจะเบรคตาม หากรถคันหน้าเพิ่มความเร็วรถของเราก็จะเพิ่มความเร็วตามความเร็วที่เราจะล็อก นอกจากนี้ ยังตั้งระยะห่างระหว่างรถคันหน้าได้ถึง 4 ระดับ ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถ ขับปาดหน้าออกนอกเลน : หากเราเปลี่ยนเลนในที่สัญญาณไฟเลี้ยวไม่เปิดใช้ ระบบจะแสดงข้อความเตือนบนหน้าจอ ประกอบกับการหน่วงพวงมาลัยเวลาดึงรถกลับเข้าเลน ถ้าใครไม่ชิน ระบบนี้อาจรู้สึกหงุดหงิดได้ เพราะพวงมาลัยจะต้านเมื่อเราข้ามเลน แต่สำหรับผมคิดว่าเป็นระบบที่ดี เพราะช่วยสร้างวินัยในการขับขี่ เปลี่ยนทุกครั้งจนติดเป็นนิสัย

 

สรุปโดยรวม

ในความเห็นส่วนตัวของฉัน Honda City e:HEV นั้นทำในตัวถังแฮทช์แบคได้ดีกว่ารถเก๋ง Honda City Hatchback เป็นรถเอนกประสงค์ใช้งานได้หลากหลาย ขับได้ทั้งในเมืองและนอกเมืองเป็นรถไฮบริดที่ประหยัดจริงๆ ขับแล้วรู้สึกปลอดภัย พร้อมระบบช่วยเหลือที่หลากหลาย ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่คุ้มค่าและน่าใช้มากๆ

 

 

บทความแนะนำ